ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"โกโก้" มาแรง ปลูกได้ทั้งพืชหลักและพืชเสริม ทำเงินไร่ละ 62,000 บาท/ปี


พืชแซม หรือ พืชเสริม ไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการเกษตร เพียงแต่ไม่ได้รับความนิยมจากเกษตรกรมากนักโดยเฉพาะช่วงที่พืชตัวหลัก อย่างปาล์มน้ำมันและยางพารา อยู่ในช่วง “ขาขึ้น”

จนเมื่อพืชหลักตกอับอยู่ในช่วง “ขาลง” จะด้วยปัญหาหรือกลไกอะไรก็ตามแต่ ทำให้พืชเสริมได้รับความสนใจมากขึ้น

ทีมงานยางปาล์มออนไลน์มีโอกาสได้พูดคุยกับเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มหลายท่านเกี่ยวกับแนวคิดในการปลูกพืชรองแซมในสวนยางและปาล์ม พบว่าสาเหตุหลักที่เกษตรกรนิยมปลูกพืชเชิงเดี่ยวมากกว่าเนื่องจากสามารถบริหารจัดการสวนได้สะดวกแลดูสะอาดสะอ้าน เข้าไปเก็บผลผลิตได้ง่าย

นอกจากนั้นยังสามารถดูแลพืชสวนได้เต็มที่ทั้งเรื่องของการเลือกใส่ปุ๋ย-ยาต่างๆ ก็ใส่แบบเจาะจงได้ทันทีไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดผลกระทบกับพืชอีกชนิดที่ปลูกร่วมกันหรือไม่ ในขณะที่เกษตรกรบางส่วนมองว่าการปลูกพืชเสริมเป็นโอกาสสร้างรายได้มากขึ้นในพื้นที่ขนาดเท่าเดิม 
นายนิตย์ ตั่นอนุพันธ์ หรือ โกเหนียว เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรใน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ปลูกมะพร้าว ปาล์มน้ำมัน เป็นพืชหลัก และปลูก “โกโก้” เสริมระหว่างแถวสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2538

“ตอนนั้นบริษัทเข้ามาสนับสนุนให้ปลูกต้นโกโก้แซมในสวนมะพร้าว โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอส่งเสริมสนับสนุนอีกแรง และใช้พันธุ์จากศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร น่าจะเป็นพันธุ์ลูกผสมชุมพร 1 ราคาต้นพันธุ์ 3 บาท/ต้น ทีนี้เราก็มีสวนปาล์มกับสวนมะพร้าว ก็เอาโกโก้เข้าไปแซม เพราะโกโก้เขาเป็นพืชที่ต้องการร่มเงา

“หลังจากที่เราทดลองปลูกต้นโกโก้ในสวนปาล์มก็พบว่าได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจทั้งพืชประธานและพืชเสริม ต้นโกโก้ทำให้ดินดีและเหมือนเป็นแทงค์น้ำเล็กๆ คอยเก็บรักษาความชุ่มชื่นใต้ดิน ปาล์มจึงไม่ขาดน้ำ”
สวนมะพร้าวของโกเหนียวปลูกโกโก้แซม ไร่ละ 84 ต้น
 โกโก้..ดีอย่างไร??? ทำไมโกเหนียวจึงปลูกโกโก้

👍 เป็นพืชที่ดูแลง่าย ไม่ค่อยมีศัตรูพืชรบกวน ไม่ต้องใช้ฝีมือในการตัดแต่งต้น

👍 อายุยืนหลายสิบปี ปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวได้ตลอดชีวิต

👍 อายุ 3 ปีเริ่มให้ผลผลิต เก็บเกี่ยวทุก 15 วัน ตลอดทั้งปี ถ้ามีระบบน้ำในฤดูแล้งจะยิ่งเพิ่มผลผลิตทั้งพืชประธานและพืชเสริม

👍 ราคาโกโก้นิ่งตลอดทั้งปีไม่แกว่งไปมาเหมือนยางพาราหรือปาล์มน้ำมัน

👍 ความต้องการโกโก้ในตลาดโลกสูงมาตลอด เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมมากว่า 100 ชนิด ทั้งการบริโภคผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เครื่องสำอางเป็นต้น 

👍 มีบริษัทรับซื้อส่งออกไปยังประเทศ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมัน และฟิลิปปินส์
 ผลโกโก้สุกจะมีสีเหลืองทอง
เมล็ดโกโก้ตากแห้ง
 👍 ส่วนเปลือกของผลสดโกโก้มีไฟเบอร์และมีน้ำมากสามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ใหญ่อย่างวัวได้ ส่วนเปลือกตากแห้งจะมีสีดำสนิทเป็นเชื้อไฟชั้นดีให้พลังงานความร้อนสูงใช้แทนถ่านหรือฟืนได้

👍 จุดแข็งของโกโก้ คือ ปลูกได้ทั้งเชิงเดี่ยวและแซมในพืชอื่นโดยที่สามารถปลูกได้จำนวนมากต่อไร่เช่น สวนมะพร้าว 1 ไร่ มีมะพร้าว 16 ต้น สามารถแซมโกโก้ได้ 84 ต้นในสวนปาล์ม 1 ไร่ มีปาล์ม 20ต้น สามารถปลูกแซมโกโก้ได้ 54 ต้น 

👍 โกโก้ปลูกแล้วดกทุกต้น ออกผลตลอดทั้งปี มีรายได้ทุก 15 วัน

👍 เมื่อเปรียบเทียบรายได้กับพืชเศรษฐกิจตัวอื่น เช่น มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา โกโก้ไม่ได้เป็นรองพืชตัวใดเลย
โกโก้แซมในสวนปาล์ม  โดยปลูกปาล์มไร่ละ 20 ต้น แซมโกโก้ 54 ต้น 

Advertising
ลงโฆษณาโทร.08-6335-2703
เปรียบเทียบรายได้/ไร่ ระหว่างมะพร้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน

มะพร้าว 
ไร่ ปลูกได้ 16 ต้น
ต้น เก็บผลผลิตเฉลี่ย 5 ลูก/ครั้ง 
ปีเก็บได้ 9 ครั้ง คิดเป็น 45 ลูก/ต้น
มะพร้าว 1 ไร่มี 16 ต้น คิดเป็น 720 ลูก/ปี
ขายราคา 15 บาท/ลูก ทั้งปีสร้างรายได้ 10,800 บาท

ต้นทุนการปลูกมะพร้าว
ใส่ปุ๋ย 3 กก./ต้น/ปี คิดราคาปุ๋ย 18 บาท/กกจำนวน 16 ต้น รวม 864 บาท/ไร่/ปี
ค่าใช้จ่ายในการกำจัดวัชพืช 3-4 ครั้ง/ปี และค่าแรงงาน รวม 800 บาท/ไร่/ปี
คงเหลือกำไร 9,118 บาท/ไร่/ปี 
ธรรมชาติของโกโก้เป็นพืชที่ต้องการร่มเงา
ยางพารา
ไร่ ปลูกได้ 70 ต้น
ไร่ กรีดน้ำยางได้เฉลี่ย 2.5 กก./วัน 
ปี กรีดได้  130 วัน คิดเป็น 325 กก.ต้น
ถ้าขายราคา 70 บาท/กกทั้งปีสร้างรายได้ 22,750 บาท

ต้นทุนการปลูกยางพารา
แบ่งรายได้กับคนกรีด 65:45% (65x22,750)/100 เจ้าของสวนมีรายได้ 15,787 บาท/ไร่/ปี
ค่าใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช กรดสำหรับยางพาราที่เจ้าของสวนต้องจ่าย 2,000 บาท/ไร่/ปี
คงเหลือกำไร 12,787 บาท/ไร่/ปี

ปาล์มน้ำมัน
ไร่ ปลูกได้ 20 ต้น
ไร่ เก็บผลผลิตได้เฉลี่ย 3,000 กก./ไร่/ปี
ถ้าขายราคา 5.5 บาท/กกทั้งปีสร้างรายได้ 16,500 บาท/ไร่/ปี

ต้นทุนการปลูกปาล์มน้ำมัน
ค่าใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช ตกแต่งทางปาล์ม 4,940 บาท/ไร่/ปี
คงเหลือกำไร 11,560 บาท/ไร่/ปี
ปลูกโกโก้ (เชิงเดี่ยว) ทำเงิน ไร่ละ 62,000 บาท/ปี

ไร่ ปลูกได้ 155 ต้น 
เมล็ดโกโก้สด 3 กกตากแห้งได้ 1 กก.
ปีที่ 3 (ปีแรกของการให้ผลผลิต)
ต้นเก็บผลผลิตตากแห้งได้ประมาณ 1 กก./ต้น/ปี
ไร่ เก็บผลผลิตได้ 155 กก./ปี
ขายราคา 50 บาท/กกทั้งปีสร้างรายได้ 7,750 บาท
ปีที่ 4
ต้นเก็บผลผลิตตากแห้งได้ประมาณ 3 กก./ต้น/ปี
ไร่ เก็บผลผลิตได้ 465 กก./ปี
ขายราคา 50 บาท/กกทั้งปีสร้างรายได้ 23,250 บาท
ปีที่ 5
ต้นเก็บผลผลิตตากแห้งได้ประมาณ 6 กก./ต้น/ปี
ไร่ เก็บผลผลิตได้ 930 กก./ปี
ขายราคา 50 บาท/กกทั้งปีสร้างรายได้ 46,500 บาท
ปีที่ 6
ต้นเก็บผลผลิตตากแห้งได้ประมาณ 8 กก./ต้น/ปี
ไร่ เก็บผลผลิตได้ 1,240 กก./ปี
ขายราคา 50 บาท/กกทั้งปีสร้างรายได้ 62,000 บาท 

ต้นทุนการปลูกโกโก้
ค่าสอยลูก เก็บรวมกอง ควักเมล็ด ใส่ถุงหมัก นำไปตาก ประมาณ 25% ของรายได้ คิดเป็น 15,500บาท (คิดจากรายได้ 62,000 บาท)
เมื่อต้นอายุ 6 ปี ใส่ปุ๋ยปีละ 2 ครั้งๆ ละ 1 กก./ต้น คิดราคาปุ๋ย 18 บาท/กกจำนวน 155 ต้น รวม 5,580บาท/ไร่/ปี
ค่าใช้จ่ายในการกำจัดวัชพืช 3-4 ครั้ง/ปี และค่าแรงงาน รวม 800 บาท/ไร่/ปี
คงเหลือกำไร  40,120 บาท/ไร่/ปี

วิธีการปลูกและดูแลต้นโกโก้

โกเหนียวเล่าว่า โกโก้เป็นไม้ผลที่เจริญเติบโตเร็วสามารถให้ผลผลิตได้ตั้งแต่อายุ 3 ปี เมื่อต้นยิ่งมีอายุมากก็ยิ่งให้ผลผลิตสูง เป็นพืชที่ออกลูกทั้งปี ไม่มีหยุด ติดผลไม่พร้อมกันทยอยออกมาเรื่อยๆ ต้นไหนสมบูรณ์กว่าก็ออกมาก่อน ไม่ได้ออกเป็นฤดูกาลเหมือนไม้อื่นๆ แต่จะมีผลผลิตชุดใหญ่ออก 2 ชุด แต่เนื่องจากต้นโกโก้ให้ผลผลิตต่อเนื่องทั้งปี จึงต้องใส่ปุ๋ยเป็นระยะหรืออย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง  
“การให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการปลูกพืชทุกชนิด ยิ่งไม้ผลที่ออกลูกทั้งปีอย่างโกโก้ถ้าขาดปุ๋ยผลเขาจะเล็กเมล็ดลีบขาดน้ำหนัก ผมมองว่าเป็นการเสียโอกาสเพราะต้นโกโก้ผลผลิตดกอยู่แล้วถ้าเราบำรุงเขาเพิ่มอีกนิดหน่อยแต่ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัวในพื้นที่เท่าเดิมจำนวนต้นเท่าเดิม”

“สำหรับสวนของผมที่มีทั้งการปลูกปาล์ม มะพร้าว และต้นโกโก้ ผมไม่ได้ใส่ปุ๋ยให้มะพร้าว แต่ใส่ปุ๋ยให้ปาล์มในปริมาณเพิ่มขึ้นจากปกติขึ้นมานิดหน่อย นอกจากนั้นมีการใช้โบรอนร่วมด้วย ใส่ 2 ช้อนแกง ซ้ายขวา ก็จะทำให้ติดลูกดี การใส่ปุ๋ย 0-0-60 เข้าไป คอก็จะใหญ่ขึ้น ออกทะลายดี ทีนี้ในส่วนของโกโก้ผมให้ต้นละ 1 กกสูตร 15-15-15   สำหรับต้นใหญ่ ถ้าต้นเล็กก็ใส่ปริมาณลดหลั่นลงไป”

เคล็ด (ไม่ลับ ของโกเหนียว คือ ความสมบูรณ์ของดิน เนื่องจากปลูกโกโก้มานานจึงมีเศษใบไม้ทับถมเน่าเปื่อยผุพังตามธรรมชาติกลายเป็นอินทรียวัตถุอย่างดีสำหรับพืช และไม่มีการเผาโดยเด็ดขาดเพื่อรักษาสมดุลของดินเอาไว้  กอปรกับโกโก้เป็นไม้ใบใหญ่มีใบมากและร่มเงาทึบ เมื่อปลูกโกโก้แล้วบริเวณใต้ต้นจึงไม่มีวัชพืช นี่เป็นเทคนิคง่ายๆ นี้เองมีส่วนช่วยให้โกเหนียวไม่ต้องคอยกำจัดวัชพืชในสวนปาล์มและสวนมะพร้าวนั่นเอง

โกเหนียวให้ข้อมูลว่าเมื่อดินดีแล้วการใช้ปุ๋ยเคมีก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเขาใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 , 16-16-16 หรือ 19-19-19 แต่ถ้าใช้สูตรสูงอย่าง 19-19-19 สามารถลดปริมาณปุ๋ยลงไปได้ 
ในส่วนของการตัดแต่งกิ่งต้นโกโก้ก็ไม่ลำบากเหมือนไม้ผลชนิดอื่นๆ เพราะไม่ต้องพิถีพิถันในการตัดแต่ง และเป็นไม้ที่แตกกิ่งจากโคนต้นจำนวนมาก ดังนั้นเกษตรกรสามารถคัดเลือกกิ่งใหม่ที่สมบูรณ์เอาไว้สัก 2 กิ่ง เมื่อกิ่งที่เลือกไว้สามารถ ให้ผลผลิตได้ก็ตัดต้นเก่าทิ้งได้ทันทีทำให้ยังคงมีรายได้อย่างต่อเนื่อง

“การดูแลไม่มีอะไรยาก ไม่ต้องใช้ยาปราบศัตรูพืช แต่ปุ๋ยต้องใช้เพราะว่าเขาติดลูกทั้งปี ทีนี้พออกทั้งปีเราก็ต้องเข้าใจนะว่าเขาก็ต้องการอาหารมาบำรุงร่างกาย ต้นโกโก้นี่พอได้ 1 ปีไปแล้วเขาจะโตเร็วมากๆ ปุ๋ยจึงมีความสำคัญ ดินดี ระบบนิเวศน์ดี แล้วผลผลิตทั้งพืชประธานและพืชเสริมจะดีไปด้วย”

“สิ่งที่เกษตรกรได้แน่ๆ ก็คือดิน ลองคุ้ยดูจะเห็นว่าดินยังเปียกอยู่เลย ผมบอกเลยว่าคุณปลูกโกโก้อย่างน้อยที่สุดคุณก็ได้ดิน ปลูกย่างอื่นในสวนปาล์ม สวนมะพร้าว อาจจะได้แค่รายได้เพิ่มจากพืชเสริม แต่คุณปลูกโกโก้คุณจะได้ดินดีแน่นอน ยิ่งนานปีออกไปก็ยิ่งได้เพราะหน้าดินตรงนี้เราสามารถขุดไปใช้งานเอาไปใส่โคนต้นไม้อื่นๆ ได้” 
 โรงเรือนพลาสติกสำหรับตากโกโก้ ช่วยให้เมล็ดโกโก้มีคุณภาพ ขายได้ราคาสูง
หลายคนเข้าใจว่าปลูกปาล์มแล้วในสวนปาล์มปลูกอะไรไม่ได้ บางคนเขาใช้คำพูดว่า “ปลูกอะไรก็ชิบหายหมด” แต่พอมาดูของผมมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมก็ปลูกอยู่ให้เห็น มันก็ใหญ่ของมันได้

“แต่เกษตรกรต้องเข้าใจว่ามีคนกินหลายคนคุณก็ต้องให้อาหารเขาให้เพียงพอ เอามาปลูกด้วยกันก็ยังใบเขียวใบใหญ่ใบมัน ผลผลิตปาล์มก็ยังดี ใบของต้นโกโก้ที่ทับถมอยู่ด้านล่างนี่ช่วยรักษาความชื้นในสวนปาล์ม แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบภัยแล้งปาล์มก็ยังมีผลผลิตให้เก็บ พี่น้องชาวสวนรู้ดีว่าปลูกปาล์มนี่ขาดน้ำไม่ได้เลย”

การเก็บผลผลิตโกโก้

เกษตรกรจะเริ่มเก็บผลโกโก้ที่สุกแล้วสังเกตจากผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ภายในโกโก้ผล จะมีเมล็ดประมาณ 40 เมล็ด 

เมื่อพอได้ผลโกโก้มาก็มาควักเอาเมล็ดออกแล้วเอามาใส่ถุงพลาสติกมัดปากไว้ได้เลย จุลินทรีย์แก๊ส จะทำงานด้วยตัวมันเอง จะเกิดการหมัก มีแก๊ส สังเกตถุงจะโป่งขึ้นมา แล้วจะกลายเป็นสีออกน้ำตาลชมพูถึงจะนำไปตากได้ ควรหมักไว้ 8 วัน ถ้าไม่หมักกลิ่นจะไม่หอมเมื่อนำมาแปรรูป 
 ในผลโกโก้จะมีเมล็ดประมาณ 40 เมล็ด
 หมักเมล็ดในถุง ก่อนนำไปตาก
จากนั้นนำไปอบแห้งในโรงพลาสติกที่เกษตรกรสามารถทำขึ้นเองได้ ออกแบบให้มีรูระบายด้วยเมล็ดโกโก้จะแห้งเร็วมาก หรือภายในระยะเวลา 4-5 วัน

นำไปขายให้กับบริษัท สยามโกโก้ โปรดักส์ ในราคา 50 บาท/กกเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นโกโก้สำเร็จรูปต่อไป


โกโก้เป็นพืชต้องการร่มเงา ไม่ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน จึงเหมาะสำหรับการปลูกเป็นพืชเสริมได้อย่างดี ใครสนใจลองโทรไปปรึกษาโกเหนียวได้ที่ 06-1674-3317 
ที่อยู่ 28 หมู่ 4 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์






advertivsing
ลงโฆษณาโทร 08-6335-2703

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลงทุน ธุรกิจยางเครป อย่างไร ให้มีกำไร

พูดถึงธุรกิจการแปรรูปน้ำยางพาราตอนนี้ “ยางก้อนถ้วย” ดูจะเป็นคำตอบต้นๆ สำหรับเกษตรกรโดยเฉพาะพี่น้องสวนยางภาคเหนือและอีสานนิยมทำยางก้อนถ้วย เนื่องจากทำง่าย ใช้เวลาน้อย ต่างจากการทำยางแผ่นซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน แถมในกระบวนการผลิตยังต้องใช้น้ำปริมาณมาก ตรงข้ามกับการทำยางก้อนถ้วยที่ไม่ต้องใช้น้ำในกระบวนการเลยและเกษตรกรทำเองได้โดยไม่ต้องอาศัยแรงงานมาก เมื่อก่อนการจำหน่ายยางก้อนถ้วยอาจเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น แต่กลับพบว่ามีจุดอ่อนบางประการทำให้เกษตรกรถูกเอาเปรียบ ถูกกดราคาซื้อเนื่องจากปริมาณน้ำในก้อนยาง   คุณประธาน สังหาญ  (ซ้าย) ธุรกิจยางเครป จึงเกิดขึ้นเพื่อลบจุดอ่อนนี้ ทีมงานยาง & ปาล์มออนไลน์ ได้สัมภาษณ์ คุณประธาน สังหาญ  หนึ่งในผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้ ปัจจุบันได้ให้คำปรึกษากับพ่อค้ารับซื้อยางก้อนถ้วยเพื่อผลิตยางเครปส่งโรงงานและกลุ่มเกษตรกรหลายแห่งในเขตภาคเหนือ-อีสานเกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจยางเครป โดยมีประเด็นสำคัญคือ ทำยางเครปอย่างไรให้ได้กำไร ศาสตร์ของการทำยางเครป “ไม่ขาดทุน” ที่ คุณประธาน สรุปคร่าวๆ มี 6 ข้อ หรือที่...

"ปุ๋ยปาล์มน้ำมัน" ใส่อย่างไรให้ผลผลิตสูง และลดต้นทุน

ปาล์มน้ำมัน เป็นไม้ยืนต้นที่มีอัตราเติบโตและให้ผลผลิตสูงในรูปน้ำมัน ซึ่งมีต้นทุนในการสังเคราะห์สูงกว่าแป้งและโปรตีน ปาล์มน้ำมันจึงต้องการธาตุอาหารปริมาณมาก ทีมงานยาง & ปาล์มออนไลน์ นำวิธีการใส่ปุ๋ยสวนปาล์มของ บริษัท ซีพีไอ อะโกรเทค จำกัด มานำเสนอ ซึ่งอยู่ใน ครือ บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน จำกัด (มหาชน) (ซีพีไอ)  ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นบริษัทแรกของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะครบวงจร  ตั้งแต่การทำสวนปาล์ม มากกว่า 20,000 ไร่ โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันบริสุทธิ์   รวมถึงพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมัน วิธีการใส่ปุ๋ยที่สวนปาล์มของบริษัทซีพีไอที่ใช้มาอย่างต่อเนื่อง และได้ผลโดยตลอด คือ การใส่ปุ๋ยให้เพียงพอต่อการสร้างต้นและเพื่อการสร้างทะลาย  กล่าวคือ ปุ๋ยส่วนหนึ่งให้ธาตุอาหารที่จะถูกตรึงอยู่ในส่วนต่างๆ ของต้น ได้แก่ ใบ ลำต้น รากที่เพิ่มขึ้นต่อปี และปุ๋ยอีกส่วนหนึ่งให้ธาตุอาหารเพื่อชดเชยกับที่ติดไปกับทะลายปาล์มน้ำมัน การชดเชยธาตุอาหารตามผลผลิตทะลายปาล์ม จึงเป็นการคืนธาตุอาหารกลับคืนส...

สวนปาล์ม สุราษฎร์ฯ ตัดปาล์มสุก ต่อรองราคาเพิ่มจากโรงงานได้

“ ชาวสวนปาล์มต้องสร้าง “อำนาจ” หรือ “เครื่องต่อรอง” ขึ้นมาก่อน เพราะตราบใดที่ยังตัดปาล์มดิบ ก็ไม่ต่างอะไรกับ “นักรบมือเปล่า” ทางออกทางเดียวคือ หยุดตัดปาล์มดิบ หันมาตัดปาล์มสุก  อย่างพร้อมเพรียง เพื่อว่าอย่างน้อยก็เป็น   “ อาวุธ”   ต่อรองโรงงานได้ ในท้ายที่สุด ” องค์ประกอบที่เป็น “เสาหลัก” ของการปลูก “ปาล์มน้ำมัน” คือ ดิน น้ำ แสงแดด และปุ๋ย ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ย่อมหมายถึง “ความพิกลพิการ” ที่สะท้อนออกมาในรูปของผลผลิต เช่น ผลผลิตต่ำ เป็นต้น แต่ถ้ามีเสาหลักครบทุกต้น ผลผลิตย่อมสูง ต้นทุนต่ำ และคุ้มค่า ด้วยเช่นกัน เหมือนกับสวนปาล์มของ นายวโรภาส คำดา ใน ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี บนพื้นที่ 20 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มปากแม่น้ำตาปี มี “น้ำ” เป็นเสาหลัก ซึ่งเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ดีของปาล์มน้ำมัน เพราะน้ำเป็นตัวเคลื่อนย้ายธาตุอาหารจากดินสู่ต้นปาล์ม ขณะที่องค์ประกอบอื่นๆ สามารถบริหารจัดการให้ครบองค์ประกอบได้ โดยเฉพาะปุ๋ย ถ้าให้อย่างเหมาะสม ผลผลิตจะสูง และสวนแห่งนี้เคยปั้นผลผลิตได้ถึง 7.2 ตัน/ไร่/ปี แต่นั่นเป็นเพียงผลผลิตเมื่อ ...