ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กล้ายาง รุ่ง ราคาพุ่งเท่าตัว รับราคายาง Comfort zone


เมื่อราคายางพาราพุ่งมาอยู่ในพื้นที่ Comfort zone หรือระยะปลอดภัย ระดับที่เกษตรกรมีกำไรคุ้มค่ากับการลงทุน กระแสปลูกยางจึงถูก “ปลุก” ขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาในช่วงที่การผลิตกล้ายางกำลัง “หลับ” และ “บาดเจ็บ” จากพิษราคายางตกต่ำในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และน้ำท่วมภาคใต้เมื่อปีที่แล้ว

เมื่อความต้องการกล้ายางถูก ปลุก แต่ปริมาณกล้ายางที่ผลิตได้ มีจำนวนน้อย จึงเกิดพลังบวกแบบสวนทางให้ราคากล้ายางพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว

“ยางตาเขียวจาก 6-8 บาท ตอนนี้เพิ่มมาเป็น 20 บาท ยางชำถุงเพิ่มมาเป็น 40-45 บาท จากเมื่อก่อน 25-30 บาท”

นายวิชาญ อัยรักษ์ จากกลุ่มผลิตพันธุ์ยางพาราอันดามัน ใน ต.โคกกลอย อ.เมือง จ.พังงา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกล้ายางใหญ่ที่สุดของประเทศ สะท้อนสถานการณ์ราคากล้ายางในปัจจุบัน 
🌿 นายวิชาญ อัยรักษ์ จากกลุ่มผลิตพันธุ์ยางพาราอันดามัน

เขาบอกว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาราคายางตกต่ำอย่างหนัก ทำให้ความต้องการปลูกยางช่วงที่ผ่านมาลดน้อยลงอย่างหนัก เกษตรกรบางส่วนโค่นยางแล้วหันไปปลูกพืชชนิดอื่นๆ เช่น ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น ขณะเดียวกันรัฐบาลมีนโยบายลดพื้นที่ปลูกยางปีละ 400,000 ไร่ ความต้องการกล้ายางจึงลดลง

ผู้ผลิตกล้ายางในกลุ่มจึงผลิตกล้ายางน้อยลง ขณะที่หลายรายโดยเฉพาะรายย่อยๆ เลิกผลิตไป ปริมาณจึงลดน้อยลงตามลำดับ

ประกอบกับช่วงปีที่แล้วพื้นที่ภาคใต้ฝนตกค่อนข้างเยอะ และบางพื้นที่น้ำท่วม แปลงเพาะเมล็ดยางสำหรับทำต้นตอได้รับความเสียหายจากท่วม หรือไม่ก็เน่าเสียหายไปจำนวนมาก

“จากเมื่อก่อนในกลุ่มผลิตกล้ายางปีละ 4-5 ล้านต้น ปีนี้ดูแล้วผลิตได้ไม่เกิน 1 ล้านต้นเท่านั้น” นายชำนาญให้ข้อมูล
 advertivsing
สนใจลงโฆษณา โทร 08-6335-2703
สวนทางกับราคายางที่คค่อยๆ กระเตื้องขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว จนทะลุ 80 บาท และยังคาดการณ์ว่าอาจทะยานไปถึง 100 บาท/กก. ความต้องการปลูกยางจึงมีมากขึ้น เกษตรกรที่กำลังจะโค่นยาง ก็ตัดสินใจหันมาปลูกยางต่อ บางรายโค่นปาล์มก็ตัดสินใจมาปลูกยาง เป็นต้น

อีกด้านหนึ่งเกษตรกรที่สวนยางได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมได้รับเงินชดเชยจาก การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ส่วนใหญ่ยังต้องการปลูกยาง

เท่ากับความต้องการกล้ายางเพิ่ม แต่การผลิตกลับลดลง ราคายางจึงพุ่งอย่างที่เป็น จนของที่มีไม่พอ เกษตรกรต้องจองก่อนล่วงหน้า

“ต้นยางไม่เหมือนกับพืชอื่นๆ มันจะออกเมล็ดเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น และในพื้นที่ภาคใต้ฝนเยอะต้นยางสมบูรณ์มันก็ไม่ค่อยจะออกดอกออกเมล็ด ต้องเอาเมล็ดยางจากทางภาคอีสาน และตะวันออก ซึ่งก็จะออกปีละครั้งเหมือนกัน”

ส่วนพันธุ์ยางพาราที่ทางกลุ่มผลิตยังคงเป็นพันธุ์ยอดนิยมมาอย่างยาวนาน อย่างพันธุ์ RRIM 600 และ RRIT 251 ส่วนพันธุ์ใหม่อย่าง RRIT 408 มีบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของเกษตรกรที่นิยมปลูก 2 พันธุ์นี้เป็นหลัก

ส่วนการวางแผนการผลิตในปีนี้เพื่อรองรับกับความต้องการในปีหน้า กลุ่มผลิตพันธุ์ยางพาราอันดามัน ยังไม่วางแผนที่จะผลิตกล้ายางเต็มที่ เพราะต้องดูทิศทางจากราคายางปีนี้ และนโยบายด้านการส่งเสริมปลูกยางจากทาง กยท. ว่าจะไปในทิศทางใด 
🌿 นายขำ นุชิตศิริภัทรา เจ้าของ พันธุ์ยางนายขำ ตรัง 
ด้าน นายขำ นุชิตศิริภัทรา เจ้าของ พันธุ์ยางนายขำ ตรัง  ผู้ผลิตกล้ายางรายใหญ่ใน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ให้ข้อมูลในทิศทางเดียวกันว่า ปีนี้กล้ายางมีความต้องการสูงมา โดยเฉพาะพันธุ์ยาง KT.311 ซึ่งเป็นพันธุ์เดียวที่นายขำผลิต เพราะโตไว และให้ผลผลิตสูง นายขำบอกว่าให้ผลผลิตสูงกว่า RRIM 600 ที่เกษตรกรนิยมปลูกกันทั่วประเทศอย่างน้อย 2 เท่า

“ปีที่แล้วผมเพาะเมล็ดยางไว้หลายแปลงรวมแล้วเกือบ 1 ล้านเมล็ด แต่ไปเจอช่วงแล้งเมล็ดไม่งอกได้รับความเสียหายเยอะ ปีนี้กล้ายาง KT.311 เลยผลิตได้ไม่มากนัก แต่มีเกษตรกรต้องการสูงมาก แต่มีของขายเพียงแค่หลักหมื่นต้นเท่านั้น ปีนี้จึงมีกล้ายางไม่เพียงพอกับความต้องการ”

ขณะเดียวกันนายขำยังบอกว่า จากการสำรวจแปลงกล้ายางในพื้นที่ จ.ตรัง โดยเฉพาะใน อ.ย่านตาขาว ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของ จ.ตรัง พบว่าแต่ละแปลงมีกล้ายางกันไม่มากนัก และมีหลายแปลงที่เลิกผลิตไป เนื่องจากราคายางหลายปีที่ผ่านมาตกต่ำ เกษตรกรโค่นยางแล้วหันไปปลูกพืชชนิดอื่น 
🌿 กล้ายาง KT.311
แต่กลไกสำคัญก็คือ กยท. ที่มีนโยบายลดพื้นที่ปลูกยางหลายแสนไร่ เพื่อลดปริมาณยาง ซึ่งนายขำไม่ค่อยเห็นด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดยางพาราต้นแรกของประเทศไทย
  
แต่เมื่อยางราคาดีขึ้นความต้องการปลูกในปีนี้จึงสูงมาก และนายขำสังเกตว่า มีคนติดต่อสั่งกล้ายางระดับหลักหลายๆ แสนต้นจำนวนมาก เนื่องจากต้องการนำไปปลูกในประเทศพื้นบ้าน เช่น ลาว และเมียนมา เป็นต้น

ขอขอบคุณ
นายวิชาญ อัยรักษ์
กลุ่มผลิตพันธุ์ยางพาราอันดามัน
35/10 หมู่ 3 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่งพังงา
📲  08 627 71345

นายขำ นุชิตศิริภัทรา
พันธุ์ยางนายขำ ตรัง
37/10 ถ.เจิมปัญญา อ.เมือง จ.ตรัง 92000
📲  08-1979-9999, 0911 311 311




Advertising


ความคิดเห็น

Unknown กล่าวว่า
คุณจิระคุณสุดยอดจิงฯ
Unknown กล่าวว่า
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลงทุน ธุรกิจยางเครป อย่างไร ให้มีกำไร

พูดถึงธุรกิจการแปรรูปน้ำยางพาราตอนนี้ “ยางก้อนถ้วย” ดูจะเป็นคำตอบต้นๆ สำหรับเกษตรกรโดยเฉพาะพี่น้องสวนยางภาคเหนือและอีสานนิยมทำยางก้อนถ้วย เนื่องจากทำง่าย ใช้เวลาน้อย ต่างจากการทำยางแผ่นซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน แถมในกระบวนการผลิตยังต้องใช้น้ำปริมาณมาก ตรงข้ามกับการทำยางก้อนถ้วยที่ไม่ต้องใช้น้ำในกระบวนการเลยและเกษตรกรทำเองได้โดยไม่ต้องอาศัยแรงงานมาก เมื่อก่อนการจำหน่ายยางก้อนถ้วยอาจเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น แต่กลับพบว่ามีจุดอ่อนบางประการทำให้เกษตรกรถูกเอาเปรียบ ถูกกดราคาซื้อเนื่องจากปริมาณน้ำในก้อนยาง   คุณประธาน สังหาญ  (ซ้าย) ธุรกิจยางเครป จึงเกิดขึ้นเพื่อลบจุดอ่อนนี้ ทีมงานยาง & ปาล์มออนไลน์ ได้สัมภาษณ์ คุณประธาน สังหาญ  หนึ่งในผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้ ปัจจุบันได้ให้คำปรึกษากับพ่อค้ารับซื้อยางก้อนถ้วยเพื่อผลิตยางเครปส่งโรงงานและกลุ่มเกษตรกรหลายแห่งในเขตภาคเหนือ-อีสานเกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจยางเครป โดยมีประเด็นสำคัญคือ ทำยางเครปอย่างไรให้ได้กำไร ศาสตร์ของการทำยางเครป “ไม่ขาดทุน” ที่ คุณประธาน สรุปคร่าวๆ มี 6 ข้อ หรือที่...

"ปุ๋ยปาล์มน้ำมัน" ใส่อย่างไรให้ผลผลิตสูง และลดต้นทุน

ปาล์มน้ำมัน เป็นไม้ยืนต้นที่มีอัตราเติบโตและให้ผลผลิตสูงในรูปน้ำมัน ซึ่งมีต้นทุนในการสังเคราะห์สูงกว่าแป้งและโปรตีน ปาล์มน้ำมันจึงต้องการธาตุอาหารปริมาณมาก ทีมงานยาง & ปาล์มออนไลน์ นำวิธีการใส่ปุ๋ยสวนปาล์มของ บริษัท ซีพีไอ อะโกรเทค จำกัด มานำเสนอ ซึ่งอยู่ใน ครือ บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน จำกัด (มหาชน) (ซีพีไอ)  ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นบริษัทแรกของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะครบวงจร  ตั้งแต่การทำสวนปาล์ม มากกว่า 20,000 ไร่ โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันบริสุทธิ์   รวมถึงพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมัน วิธีการใส่ปุ๋ยที่สวนปาล์มของบริษัทซีพีไอที่ใช้มาอย่างต่อเนื่อง และได้ผลโดยตลอด คือ การใส่ปุ๋ยให้เพียงพอต่อการสร้างต้นและเพื่อการสร้างทะลาย  กล่าวคือ ปุ๋ยส่วนหนึ่งให้ธาตุอาหารที่จะถูกตรึงอยู่ในส่วนต่างๆ ของต้น ได้แก่ ใบ ลำต้น รากที่เพิ่มขึ้นต่อปี และปุ๋ยอีกส่วนหนึ่งให้ธาตุอาหารเพื่อชดเชยกับที่ติดไปกับทะลายปาล์มน้ำมัน การชดเชยธาตุอาหารตามผลผลิตทะลายปาล์ม จึงเป็นการคืนธาตุอาหารกลับคืนส...

สวนปาล์ม สุราษฎร์ฯ ตัดปาล์มสุก ต่อรองราคาเพิ่มจากโรงงานได้

“ ชาวสวนปาล์มต้องสร้าง “อำนาจ” หรือ “เครื่องต่อรอง” ขึ้นมาก่อน เพราะตราบใดที่ยังตัดปาล์มดิบ ก็ไม่ต่างอะไรกับ “นักรบมือเปล่า” ทางออกทางเดียวคือ หยุดตัดปาล์มดิบ หันมาตัดปาล์มสุก  อย่างพร้อมเพรียง เพื่อว่าอย่างน้อยก็เป็น   “ อาวุธ”   ต่อรองโรงงานได้ ในท้ายที่สุด ” องค์ประกอบที่เป็น “เสาหลัก” ของการปลูก “ปาล์มน้ำมัน” คือ ดิน น้ำ แสงแดด และปุ๋ย ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ย่อมหมายถึง “ความพิกลพิการ” ที่สะท้อนออกมาในรูปของผลผลิต เช่น ผลผลิตต่ำ เป็นต้น แต่ถ้ามีเสาหลักครบทุกต้น ผลผลิตย่อมสูง ต้นทุนต่ำ และคุ้มค่า ด้วยเช่นกัน เหมือนกับสวนปาล์มของ นายวโรภาส คำดา ใน ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี บนพื้นที่ 20 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มปากแม่น้ำตาปี มี “น้ำ” เป็นเสาหลัก ซึ่งเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ดีของปาล์มน้ำมัน เพราะน้ำเป็นตัวเคลื่อนย้ายธาตุอาหารจากดินสู่ต้นปาล์ม ขณะที่องค์ประกอบอื่นๆ สามารถบริหารจัดการให้ครบองค์ประกอบได้ โดยเฉพาะปุ๋ย ถ้าให้อย่างเหมาะสม ผลผลิตจะสูง และสวนแห่งนี้เคยปั้นผลผลิตได้ถึง 7.2 ตัน/ไร่/ปี แต่นั่นเป็นเพียงผลผลิตเมื่อ ...