ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โค่นยาง ปลูกปาล์ม “พันธุ์โกลด์เด้นเทเนอร่า” 100 ไร่ อายุแค่ 40 เดือน คาดผลผลิตเฉียด 3 ตัน/ไร่/ปี

สืบเนื่องจากโพสต์ใน Facebook กลุ่มปาล์มน้ำมัน ของ กิตติชัย ก่ออ้อ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ที่นำภาพสวนปาล์มแห่งหนึ่งใน อ.อ่าวลึก .กระบี่ มาโพสต์ให้คนในกลุ่มชม โดยภาพนั้นเป็นต้นปาล์มวัยแค่ 40 เดือน แต่กลับให้ทะลายเต็มจนทะลักคอทุกต้น ส่วนใหญ่ทะลาย 3 ชั้น

ทีมงานยางปาล์มออนไลน์เห็นแล้วตาลุกโชนเพราะทึ่งปนตะลึง เช่นเดียวกับสมาชิกที่ติดตามกลุ่มปาล์มน้ำมันกว่า 25,600 คน ก่อนที่เราจะตกลงกันว่าต้องเดินทางลงกระบี่เพื่อไปดูให้เห็นกับลูกตา  

หากแต่จุดประสงค์หลักเราต้องการเจาะลึกเทคนิคบริหารจัดการสวนปาล์มจากเจ้าของสวน โดยได้รับการอำนวยความสะดวกจาก บริษัท โกลด์เด้นออยล์ปาล์ม จำกัด ซึ่งเป็นพันธุ์ปาล์มที่สวนแห่งนี้ใช้ปลูกจำนวน 100 ไร่ และโชคดีที่ ดร.เอนก ลิ่มศรีวิไล เจ้าของและผู้พัฒนาสายพันธุ์ปาล์มโกลด์เด้นเทเนอร่า เดินทางไปชมพร้อมกับทีมงานด้วย

เมื่อเดินทางถึงสวนปาล์มแห่งนี้ ดร.เอนก คว้ากล้องคู่กายเดินถ่ายภาพและหายลับเข้าไปในสวนปาล์ม ได้ยินแต่เสียงร้องอุทานเป็นระยะๆ หลังจากเห็นทะลายปาล์มดกเต็มคอทุกต้น ซึ่งเป็นปาล์มลูกผสมรุ่นใหม่ (โกลด์เด้นเทเนอรา รุ่น KB. 2) ที่เขาพัฒนาขึ้นมากับมือ ปล่อยให้พวกเราอยู่กับ นาย Teoh Soon Hock หรือ “โกฮก” เจ้าของสวนชาวมาเลเซีย 
นาย Teoh Soon Hock หรือ “โกฮก” เจ้าของสวนชาวมาเลเซีย
เมื่อก่อนที่แปลงนี้เป็นสวนยางเก่า โค่นปลูกใหม่มาแล้ว 2 รุ่น แต่ดูสภาพอากาศทางกระบี่แล้วปลูกยางได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะฝนค่อนข้างเยอะ วันกรีดน้อย จึงน่าจะเหมาะปลูกปาล์มมากกว่า

โกฮก บอกสาเหตุของการเปลี่ยนสวนยางเป็นสวนปาล์ม ซึ่งกำลังกลายเป็นปัญหาระดับภูมิภาค ของภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดามัน หลายปีที่ผ่านมามีฝนตกชุกทั้งปี จนกรีดยางได้ปีละ 50-60 วันเท่านั้น ปาล์มน้ำมัน จึงน่าจะเหมาะสมกว่ายางพารา

คิดจะปลูกปาล์มให้สำเร็จ สายพันธุ์คือ “เส้นเลือดใหญ่”

เมื่อคิดจะปลูกปาล์ม สายพันธุ์คือ “เส้นเลือดใหญ่” ของความสำเร็จ สำคัญต้องเป็นพันธุ์ลูกผสม เทเนอร่า (DxP) ที่ผ่านการเพาะต้นกล้าอย่างมาตรฐาน

บังเอิญว่าผมสนิทสนมกับคุณเอนก มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวชมแปลงพ่อแม่พันธุ์โกลด์เด้นเทเนอร่าที่พัฒนาขึ้นมาใน จ.กระบี่ และได้แลกเปลี่ยนเรื่องพันธุ์ปาล์มกันพอสมควร พันธุ์นี้มีจุดเด่นทนแล้งให้ผลผลิตสูงถึง 5 ตัน/ไร่/ปี เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง น่าจะเหมาะสมกับพื้นที่จึงซื้อพันธุ์มาปลูก 2,500 ต้น 
แปลงแม่พันธุ์รุ่นใหม่ใน จ.กระบี่ ของ ดร.เอนก คัดเลือกต้นที่ทนต่อฤดูแล้งขาดฝนนานถึง 4 เดือน แต่ยังออกช่อดอกตัวเมีย ใช้เป็นแม่พันธุ์โกลด์เด้นเทเนอร่ารุ่นใหม่
ทั้งนี้ปาล์มพันธุ์โกลด์เด้นเทเนอร่า พัฒนาและปรับปรุงพ่อแม่พันธุ์ขึ้นในเมืองไทย จึงทนต่อสภาพอากาศของไทยได้อย่างดี สามารถทนแล้งได้นานถึง 4 เดือน ดร.เอนก บอกว่าคุณสมบัติ “ทนแล้ง” ถือเป็น “กระดูกสันหลัง” ในการพัฒนาแม่พันธุ์โกลด์เด้นเทเนอร่ารุ่นใหม่ โดยจะคัดเลือกต้นแม่พันธุ์ที่ทนต่อสภาพฤดูแล้งที่ขาดฝนนานถึง 4 เดือน แต่ยังออกดอกช่อดอกตัวเมียและให้ผลผลิตสูง ซึ่งลูกผสมโกลด์เด้นเทเนอร่าจึงอึดและทนแล้งด้วยเช่นเดียวกัน

“แม้กระบี่ฝนจะตกบ่อย แต่ปีที่แล้ว (ปี 2559) ก็แล้งหลายเดือน แล้งจนต้นปาล์มเหลืองเกือบตาย แต่หลังจากนั้นฝนตกลงมาช่วยพอดี โกฮกเล่าอย่างนั้น 
ปลูกปาล์มระยะ 9.2 เมตร พร้อมปลูกพืชคลุมดิน

เจ้าของสวนปาล์มร้อยไร่ เลือกที่จะปลูกระยะ 9.2 x 9.2 x 9.2 เมตร หรือ 21 ต้น/ไร่ แทนระยะปลูกมาตรฐานทั่วไป 9x9 เขามองในระยะยาวหากต้นปาล์มใหญ่ขึ้นใบอาจจะชนกัน จะทำให้ต้นปาล์มได้รับแสงแดดไม่เต็มที่ และจะทำให้ต้นสูงเร็ว

ขณะที่สภาพพื้นที่เป็นสวนยางเก่า สภาพเป็นดินลูกรัง กรวด หิน อาศัยน้ำฝนจากธรรมชาติเลี้ยงต้นปาล์ม จึงปลูกพืชตระกูลถั่วช่วยคลุมดิน และรักษาความชื้น ซึ่งสามารถช่วยได้มากทีเดียวในช่วงหน้าแล้ง อีกทั้งซากใบและเถาเมื่อแก่จะแห้งผุ ย่อยสลายกลายเป็นอินทรียวัตถุคืนสู่ดิน ส่วนเมล็ดก็จะงอกขึ้นใหม่วนเวียนอยู่อย่างนี้ 
ปลูกพืชตระกูลถั่วเป็นพืชคลุมดิน ประโยชน์หลายอย่าง
อาศัยเพียงแค่ควบคุมหญ้าบริเวณโคนต้นและรัศมีวงรอบต้น เพื่อให้ง่ายเวลาทำงานและใส่ปุ๋ย โดยจะใช้ยาฆ่าหญ้า ประเภท อินดาซิแฟลม (indaziflam) ฉีดพ่นคุมหญ้าพวกใบแคบและใบกว้าง รวมถึงควบคุมไม่ให้เมล็ดหญ้างอกใหม่ โดยจะฉีด ทุกๆ 6 เดือน

อัดปุ๋ย ต้นละ 7 กก./ปี ทะลายทะลักเต็มคอ

โกฮก บอกว่า ปลูกปาล์มสายพันธุ์ดี น้ำดี อย่างเดียวไม่เพียงพอ ผลผลิตต้องดีด้วย และ “หัวใจ” ก็คือ “ปุ๋ย” ซึ่งเขาให้ความสำคัญมากในช่วงปาล์มให้ผลผลิต

“ช่วงปาล์มเล็กจะใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 บำรุงทุกส่วนของต้นปาล์มให้สมบูรณ์ พอปาล์มเริ่มเข้าปีที่ 2 เริ่มออกทะลาย จะเปลี่ยนมาใส่แม่ปุ๋ยแทน มีปุ๋ย 21-0-0, 0-0-60 และ 0-3-0  แล้วก็มีโบรอนเสริมช่วยให้ใบสมบูรณ์ ออกทะลายใหญ่ และเพิ่มขนาดทะลาย 

วิธีใส่แม่ปุ๋ยจะเลือกใส่แยกเดือนละหนึ่งตัว โดยแบ่งเป็น ปุ๋ย 21-0-0 (แอมโมเนียมซัลเฟต)  ใส่ปีละ 2 ครั้งๆ ละ 1.5 กก. รวม 3 กก./ปี  ปุ๋ย 0-0-60 (โพแทสเซียมคลอไรด์)  ใส่ปีละ 2 ครั้งๆ ละ 1.5 กก. รวม 3 กก./ปี และ ปุ๋ย 0-3-0 (ร็อกฟอสเฟต) 1.5 กก./ปี และใส่โบรอน 100 กรัม เมื่อรวมปริมาณปุ๋ยทั้งปี เท่ากับ 7 กก./ต้น/ปี “ช่วงนี้ปาล์มมีทะลายเยอะมาก ก็ต้องการอาหารเยอะหน่อย” 

ผลผลิตปีแรก 1 ตัน/ไร่/ปี ปีที่สอง คาดพุ่ง 2.5-3 ตัน

ผลผลิตปีแรก (2559) เก็บเกี่ยวเมื่อต้นปาล์มอายุ  25-37 เดือน ปรากฏว่าผลผลิตรวมทั้งปี ประมาณ 1,200 กิโลกรัม/ไร่/ปี โดยเลือกตัดเฉพาะปาล์มสุกที่มีลูกร่วงเท่านั้น น้ำหนักทะลาย 5-6 กก.

“ช่วงตัดทะลายปีแรกจะยังไม่แต่งทางปาล์มออก เพราะเป็นช่วงที่ต้นปาล์มต้องการใบเพื่อสังเคราะห์แสงมาก ถ้าแต่งทางช่วงนี้ต้นปาล์มจะสร้างอาหารน้อยลง และทำให้โคนลำต้นเล็กด้วย ผมเพิ่งจะแต่งทางครั้งแรกเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 59  เลือกทางแก่ที่รับแสงไม่ได้ เพื่อให้เข้าไปกวาดลูกร่วงได้ไม่ลำบาก”

ทางใบที่ตัดออกเราก็เอามาปูให้มันย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย ถ้าต้นโตกว่านี้ผมจะใส่ปุ๋ยในกองทางใบแทนหว่านรอบต้น” 

ส่วนปีนี้คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยดูจากสภาพต้นที่ใหญ่และสมบูรณ์เต็มที่ หลังจากได้รับฝนช่วงปลายปี 59 อย่างเต็มที่ ทะลายปาล์มจึงออกมาเต็มคอเต็มทั้งสวน แต่ละต้นมีทะลายรอบต้น 2-3 ชั้น และส่วนมากทะลายดก ชั้น 

โกฮก คาดเดาเบื้องต้นว่าผลผลิตในปี 2560 นี้ ไม่น่าจะต่ำกว่า 2 ตัน/ไร่/ปี ขณะที่คุณกิตติชัย ก่ออ้อ ที่เดินพิจารณาสภาพต้น จำนวนทะลาย และวิธีการบริหารจัดการสวนที่ดีจากเจ้าของสวน จึงคาดว่าจะได้ประมาณ 2.5 - ตัน/ไร่/ปี 
ทางใบปาล์มปูในสวนปาล์มให้ย่อยสลายกลายเป็นอินทรีย์ และเมื่อปาล์มอายุ 5 ปีขั้นไปจะใส่ปุ๋ยบนทางปาล์มเหล่านี้
 เจ้าของสวนปาล์มแปลงนี้ย้ำกับทีมงานว่า หากจะปลูกปาล์มน้ำมันให้ประสบความสำเร็จ อย่างแรกเลย ต้อง เลือกพันธุ์ปาล์มที่ดี เป็นลูกผสม เทเนอร่า (DxP) ผ่านการเพาะกล้าที่ได้มาตรฐาน ต้นกล้าสมบูรณ์ 

ตามด้วยระบบการดูแลจัดการสวนที่ดี อย่าปล่อยให้หญ้ารก แต่ถ้าหญ้าเตียนเกินไปก็ไม่ดี ต้องทำให้เหมาะสม

รวมถึง ปุ๋ยที่ดี ยิ่งสำคัญ เพราะต้นปาล์มใช้บำรุงต้นและทะลาย ยิ่งช่วงที่ออกทะลายมากๆ ยิ่งต้องให้ปุ๋ยเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการตอบข้อสงสัยที่ว่า ทำไมสวนปาล์มที่มีทะลายดกเต็มคอ 2-3 ชั้นทุกต้น ของ โกฮก จึงใส่ปุ๋ยถึงต้นละ 7 กก./ปี
ต้นนี้แสดงถึงความดกอย่างชัดเจน 
ลักษณะของปาล์มสุกเต็มที่พร้อมตัด ต้องมีลูกร่วง เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง
เมื่อปีที่แล้วสวนปาล์มเจอแล้งหนักจนต้นเหลืองเกือบตาย แต่ก็รอดมาได้เพราะฝนช่วย และออกทะลายดกเต็มต้นทั้งสวนในปีนี้
ดร.เอนก ลิ่มศรีวิไล (ซ้าย), นาย Teoh Soon Hock (กลาง) และนายกิตติชัย ก่ออ้อ



ดร.เอนก ลิ่มศรีวิไล (ซ้าย) ผู้พัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ปาล์มโกลด์เด้นเทเนอร่า 
ขอขอบคุณ
นาย Teoh Soon Hock
อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โทรศัพท์ 08-1957-2036
ภาพประกอบส่วนหนึ่งจาก : คุณกิตติชัย ก่ออ้อ
ขอขอบคุณคลิป VDO จาก ทีมงาน โกลด์เด้นปาล์มออยล์



ลงโฆษณาโทร.08-6335-2703


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลงทุน ธุรกิจยางเครป อย่างไร ให้มีกำไร

พูดถึงธุรกิจการแปรรูปน้ำยางพาราตอนนี้ “ยางก้อนถ้วย” ดูจะเป็นคำตอบต้นๆ สำหรับเกษตรกรโดยเฉพาะพี่น้องสวนยางภาคเหนือและอีสานนิยมทำยางก้อนถ้วย เนื่องจากทำง่าย ใช้เวลาน้อย ต่างจากการทำยางแผ่นซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน แถมในกระบวนการผลิตยังต้องใช้น้ำปริมาณมาก ตรงข้ามกับการทำยางก้อนถ้วยที่ไม่ต้องใช้น้ำในกระบวนการเลยและเกษตรกรทำเองได้โดยไม่ต้องอาศัยแรงงานมาก เมื่อก่อนการจำหน่ายยางก้อนถ้วยอาจเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น แต่กลับพบว่ามีจุดอ่อนบางประการทำให้เกษตรกรถูกเอาเปรียบ ถูกกดราคาซื้อเนื่องจากปริมาณน้ำในก้อนยาง   คุณประธาน สังหาญ  (ซ้าย) ธุรกิจยางเครป จึงเกิดขึ้นเพื่อลบจุดอ่อนนี้ ทีมงานยาง & ปาล์มออนไลน์ ได้สัมภาษณ์ คุณประธาน สังหาญ  หนึ่งในผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้ ปัจจุบันได้ให้คำปรึกษากับพ่อค้ารับซื้อยางก้อนถ้วยเพื่อผลิตยางเครปส่งโรงงานและกลุ่มเกษตรกรหลายแห่งในเขตภาคเหนือ-อีสานเกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจยางเครป โดยมีประเด็นสำคัญคือ ทำยางเครปอย่างไรให้ได้กำไร ศาสตร์ของการทำยางเครป “ไม่ขาดทุน” ที่ คุณประธาน สรุปคร่าวๆ มี 6 ข้อ หรือที่...

"ปุ๋ยปาล์มน้ำมัน" ใส่อย่างไรให้ผลผลิตสูง และลดต้นทุน

ปาล์มน้ำมัน เป็นไม้ยืนต้นที่มีอัตราเติบโตและให้ผลผลิตสูงในรูปน้ำมัน ซึ่งมีต้นทุนในการสังเคราะห์สูงกว่าแป้งและโปรตีน ปาล์มน้ำมันจึงต้องการธาตุอาหารปริมาณมาก ทีมงานยาง & ปาล์มออนไลน์ นำวิธีการใส่ปุ๋ยสวนปาล์มของ บริษัท ซีพีไอ อะโกรเทค จำกัด มานำเสนอ ซึ่งอยู่ใน ครือ บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน จำกัด (มหาชน) (ซีพีไอ)  ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นบริษัทแรกของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะครบวงจร  ตั้งแต่การทำสวนปาล์ม มากกว่า 20,000 ไร่ โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันบริสุทธิ์   รวมถึงพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมัน วิธีการใส่ปุ๋ยที่สวนปาล์มของบริษัทซีพีไอที่ใช้มาอย่างต่อเนื่อง และได้ผลโดยตลอด คือ การใส่ปุ๋ยให้เพียงพอต่อการสร้างต้นและเพื่อการสร้างทะลาย  กล่าวคือ ปุ๋ยส่วนหนึ่งให้ธาตุอาหารที่จะถูกตรึงอยู่ในส่วนต่างๆ ของต้น ได้แก่ ใบ ลำต้น รากที่เพิ่มขึ้นต่อปี และปุ๋ยอีกส่วนหนึ่งให้ธาตุอาหารเพื่อชดเชยกับที่ติดไปกับทะลายปาล์มน้ำมัน การชดเชยธาตุอาหารตามผลผลิตทะลายปาล์ม จึงเป็นการคืนธาตุอาหารกลับคืนส...

สวนปาล์ม สุราษฎร์ฯ ตัดปาล์มสุก ต่อรองราคาเพิ่มจากโรงงานได้

“ ชาวสวนปาล์มต้องสร้าง “อำนาจ” หรือ “เครื่องต่อรอง” ขึ้นมาก่อน เพราะตราบใดที่ยังตัดปาล์มดิบ ก็ไม่ต่างอะไรกับ “นักรบมือเปล่า” ทางออกทางเดียวคือ หยุดตัดปาล์มดิบ หันมาตัดปาล์มสุก  อย่างพร้อมเพรียง เพื่อว่าอย่างน้อยก็เป็น   “ อาวุธ”   ต่อรองโรงงานได้ ในท้ายที่สุด ” องค์ประกอบที่เป็น “เสาหลัก” ของการปลูก “ปาล์มน้ำมัน” คือ ดิน น้ำ แสงแดด และปุ๋ย ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ย่อมหมายถึง “ความพิกลพิการ” ที่สะท้อนออกมาในรูปของผลผลิต เช่น ผลผลิตต่ำ เป็นต้น แต่ถ้ามีเสาหลักครบทุกต้น ผลผลิตย่อมสูง ต้นทุนต่ำ และคุ้มค่า ด้วยเช่นกัน เหมือนกับสวนปาล์มของ นายวโรภาส คำดา ใน ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี บนพื้นที่ 20 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มปากแม่น้ำตาปี มี “น้ำ” เป็นเสาหลัก ซึ่งเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ดีของปาล์มน้ำมัน เพราะน้ำเป็นตัวเคลื่อนย้ายธาตุอาหารจากดินสู่ต้นปาล์ม ขณะที่องค์ประกอบอื่นๆ สามารถบริหารจัดการให้ครบองค์ประกอบได้ โดยเฉพาะปุ๋ย ถ้าให้อย่างเหมาะสม ผลผลิตจะสูง และสวนแห่งนี้เคยปั้นผลผลิตได้ถึง 7.2 ตัน/ไร่/ปี แต่นั่นเป็นเพียงผลผลิตเมื่อ ...